วันอังคารที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2553

ข้อเรียกร้องให้ขับพรรคประชาธิปัตย์จากสมาชิกภาพของสหพันธ์เสรีนิยมสากล

นาย Hans van Baalen, MEP

ประธานสหพันธ์เสรีนิยมสากล (the Liberal International)

cc:The Bureau of the Liberal International, International Officers of the Liberal International’s Full Members and Observer Members.

ลอนดอน, 30 สิงหาคม 2553

จดหมายเปิดผนึก

ข้อเรียกร้องให้ขับพรรคประชาธิปัตย์จากสมาชิกภาพของสหพันธ์เสรีนิยมสากล

เรียน Hans van Baalen ที่เคารพ,

สหพันธ์เสรีนิยมสากลกำหนดให้สมาชิกของสหพันธ์ยอมรับและปฏิบัติตามข้อ บัญญัติในแถลงการณ์เสรีนิยม 1947 คำประกาศแห่งกรุงออกซ์ฟอร์ด 1967 และข้อเรียกร้องเสรีนิยมแห่งโรม 1981 แต่หลายปีที่ผ่านมา พรรคประชาธิปัตย์ซึ่งเป็นสมาชิกเต็มมิได้ปฏิบัติตามบทบัญญัติหรือแม้แต่ เชื่อมั่นในแนวทางเหล่านี้เหล่านี้แม้แต่น้อย และจากหลักฐานที่แสดงให้เห็นถึงการกระทำที่เป็นปริปักษ์ต่อแนวทางเสรีนิยม ของพรรคประชาธิปัตย์ที่มีอยู่มากมาย เราจึงขอเรียกร้องให้สหพันธ์เสรีนิยมสากลขับพรรคประชาธิปัตย์ออกจาการเป็น สมาชิกภาพ

เมื่อพรรคประชาธิปัตย์ได้ขึ้นสู่อำนาจเมื่อเดือนธันวาคมปี 2551 โดยคำตัดสินของศาลที่พิพากษาให้การเลือกตั้งปีก่อนหน้านั้นเป็นโมฆะ พรรคได้ดำเนินการทำลายระบอบประชาธิปไตย เสรีภาพการพูด สิทธิทางการเมืองและพลเรือน และนโยบายคุ้มครองชนกลุ่มน้อยในประเทศไทย

ประการแรก พรรคประชาธิปัตย์ได้ทำลายเสรีภาพแห่งการแสดงออกอย่างเป็นระบบ โดยการ

ก) ฟ้องร้องฝ่ายตรงข้ามโดยใช้กฎหมายอันกดขี่ เช่นกฎหมายอันเข้มงวดอย่างกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพและพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ จะเห็นได้จากสถิติการดำเนินคดีเหล่านี้ ในปี 2552

ข) ปิดกั้นข้อมูลข่าวสารทางเลือกอื่น รวมถึงสถานีทีวีฝ่ายตรงข้าม วิทยุชุมชนหลายสถานี

และเวปไซต์อีกกว่า50000 ถูกสั่งปิดโดยรัฐบาล

ประการที่สอง พรรคประชาธิปัตย์สนับสนุนการใช้ความรุนแรงและระบบศาลเตี้ยเพื่อกำจัดฝ่ายตรง ข้าม เป็นผลทำให้ประชาชนผู้ไม่มีอาวุธเสียชีวิตกว่าร้อยราย และบาดเจ็บอีกราวสองพันราย ตามรายงานข่าวของนักข่าวไร้พรมแดนกล่าวว่า ระหว่างการสลายการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงนั้น รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ได้ออก “ใบอนุญาตสังหาร” ให้กับกองทัพไทย เพื่อให้กองกำลังความมั่นคงใช้ในการ “หลีกเลี่ยงที่จะปฏิบัติตามกฎหมายระหว่างประเทศและระบบกฎหมายไทยที่ปกป้อง ประชาชน”

ประการที่สาม Human right watch ได้กล่าวว่าพรรคประชาธิปัตย์แสดงให้เห็นถึง “ พฤติกรรมที่ไม่เคารพสิทธิมนุษยชนและระบบกฎหมายอย่างต่อเนื่อง” เมื่อไม่นานมานี้พรรคได้ใช้อำนาจเผด็จการผ่านทางกฎหมายที่ไม่ความชอบธรรม อย่างพ.ร.ก.ฉุกเฉินเพื่อระงับสิทธิพลเรือนและสิทธิทารเมืองซึ่งเป็นสิทธิที่ ประกันไว้ในรัฐธรรมนูญ กระทำดังกล่าวเป็นการทำลายระบบนิติรัฐไม่ต่างจากการทำรัฐประหาร องค์การนิรโทษกรรมสากลประจำประเทศไทยได้กล่าวเมื่อไม่นานมานี้ว่า พ.ร.ก.ฉุกเฉินได้รองรับจุดประสงค์ของรัฐบาลที่ต้องการจะ “กดขี่ระบบกฎหมายและฝ่าตรงข้าม”

ประการที่สี่ พรรคประชาธิปัตย์ได้แสดงความไม่ประสงค์ที่จะปกป้องสิทธิของชนกลุ่มน้อยที่ ถูกดำเนินคดีทางการเมืองในประเทศเพื่อน ส่งผลให้ชาวโรฮิงญาราว 500รายเสียชีวิตเพราะขาดน้ำและอาหาร หลังจากที่กองทัพไทยได้ผลักเรือที่ปราศจากเครื่องยนต์หรือเข็มทิศนำทางของ ชาวโรฮิงญาออกไปยังน่านน้ำทะเลสากล พรรคประชาธิปัตย์ยังละเมิดกฎหมายจารีตประเพณีระหว่างประเทศด้วยการส่งผู้ลี้ ภัยทางเมืองชาวม้ง4000คนกลับไปยังประเทศลาวในปี 2552 ซึ่งเป็นประเทศที่พวกเขาถูกดำเนินคดีทางการเมืองและทรมานเมื่อถูกประชาคมโลก วิจารณ์ สมาชิกสภาราษฎรจากพรรคประชาธิปัตย์นายไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ กล่าวตอบโต้ว่าประเทศไทยไม่มีพันธกรณีที่จะต้องปฏิบัติตามกระบวนของข้าหลวง ใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ เพราะประเทศไทยไม่ได้ลงนามร่วมในสนธิสัญญาระหว่างประเทศที่ว่าด้วยการปกป้อง สิทธิของผู้ลี้ภัย

ประการที่ห้า พรรคมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ซึ่งเป็นกลุ่มที่ที่ต้องรับผิดชอบต่อการยึดทำเนียบรัฐบาลเป็นเวลา 3เดือน และยึดสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิเป็นเวลา 1อาทิตย์ และการยั่วยุทำให้เกือบจะเกิดสงครามระหว่างไทย-กัมพูชาในหลายครั้งตั้งแต่ปี 2551 นอกจากจะนิยมลัทธิคลั่งชาติ ต่อต้านแนวคิดแบบประชาธิปไตยแล้ว สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์หลายคนยังเป็นแกนนำกลุ่มพันธมิตร ภายใต้การนำรัฐบาลของพรรคประชาธิปัตย์ กลุ่มพันธมิตรไม่ต้องรับผิดชอบต่อการกระทำอันรุนแรงในความพยายามล้มรัฐบาล ที่มาจากการเลือกตั้ง

เราอาจสามารถเข้าใจได้ว่าสหพันธ์เสรีนิยมสากลอาจจะยอมรับใน“ความหลากหลาย ของกลุ่มประเทศสมาชิก”ตามแนวทางเสรีนิยม โดยเฉพาะประเทศที่ยังไม่มีประชาธิปไตยเต็มใบ อย่างไรก็ตาม เป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องเข้าใจว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้ประยุกต์ใช้ “เสรีนิยมกับความเป็นไทย” อันที่จริงแล้วพรรคได้กระทำในสิ่งที่ตรงข้ามอย่างสิ้นเชิง

สหพันธ์เสรีนิยมสากลมีสมาชิกอย่างพรรคประชาธิปัตย์ที่ทำลายความเป็น ประชาธิปไตย และรักษาอำนาจของตนด้วยการอาศัยการสนับสนุนจากกองทัพและสถาบันที่ไม่ได้มา จากการเลือกตั้งและยังปฏิเสธที่ความชอบธรรมของการเลือกตั้ง สหพันธ์เสรีนิยมสากลยังมีสมาชิกอย่างพรรคประชาธิปัตย์ที่เป็นผู้นำรัฐบาลที่ มีการปิดกั้นข่าวสารอย่างหนักอย่าง มีระบบการดำเนินคดีกับฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองโดยการบิดเบือนกระบวนการทาง กฎหมาย และเพิกเฉยต่อสิทธิพลเรือนและสิทธิทางการเมืองของประชาชน และสหพันธ์เสรีนิยมสากลมีสมาชิกอย่างพรรคประชาธิปัตย์ที่สนับสนุนการผูกขาด ทางเศรษฐกิจทั้งจากภายในและภายนอกประเทศ นอกจากนี้พรรคยังใช้ภาษาที่ลดความเป็นมนุษย์ต่อฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองอย่าง เป็นปกติวิสัยและเพื่อจะสร้างความชอบธรรมในการกดขี่คนกลุ่มน้อย พรรคยังเลือกที่จะยอบรับการกระทำอันรุนแรงที่เหล่าผู้นำพรรคมีส่วนเกี่ยว ข้องโดยการร่วมมือกับองค์กรกึ่งเผด็จการฟาสซิสต์อย่างกลุ่ม

พันธมิตร

นอกจากจะห่างไกลจากการเป็นพรรค “เสรีนิยม” พรรคประชาธิปัตย์แห่งประเทศไทยยังเป็นศูนย์รวมของนโนบายต่อต้านประชาธิปไตย และเต็มไปด้วยแนวทางที่พรรคที่เชื่อมั่นในเสรียมอย่างแท้จริงในประเทศยุโรป และที่อื่นต่อต้านมาเป็นเวลากว่าสองทศวรรษ เรา้เชื่อว่าสหพันธ์เสรีนิยมสากลจะไม่ยอมเสียชื่อเพราะมีพรรคที่ เป็น“ประชาธิปไตย”เพียงในนามเท่านั้นเป็นสมาชิก

เราได้แนบเอกสารทั้ง 23หน้าอธิบายถึงการกระทำและแนวทางความคิดของพรรคประชาธิปัตย์ที่เป็นปริ ปักษ์ต่อแนวทางเสรีนิยม จากหลักฐานดังกล่าว เราขอเรียกร้องให้สหพันธ์เสรีนิยมสากลขับพรรคประชาธิปัตย์ออกจากการเป็น สมาชิกอย่างเร่งด่วน เพราะการกระทำของพรรคประชาธิปัตย์จะองค์การสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศประณาม สหพันธ์เสรีนิยมสากล กระทำของพรรคยังเป็นปริปักษ์ต่อนโยบายของสหพันธ์เสรีนิยมสากลที่พยายามเผล แพร่แนวทางเสรีนิยมทั่วโลก นอกจากนี้การกระทำของพรรคประชาธิปัตย์ที่พยายามจะกำจัดฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลยัง คงอยู่ในช่วงดำเนินการ ดังนั้นการกดดันจากประชาคมโลกจะช่วยนำแนวทางเสรีนิยมประชาธิปไตยกลับมาสู่ ประเทศไทย

รายงาน Chatham Houseที่เขียนโดยอดีตเอกอัครราชทูตออสเตรเลียเมื่อไม่นานมานี้ ได้กล่าวว่าประชาคมโลกควรจะร่วมกันกดดันรัฐบาลให้ยกเลิกการใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน การขี่ฝ่ายตรงข้ามอย่างเป็นระบบ และการจัดให้มีการเลือกตั้งทั่วไป เพื่อที่จะนำไปสู่แนวทางปรองดองสมานฉันท์ของทั้งสองฝ่าย สหพันธ์เสรีนิยมสากลคือหนึ่งในองค์กรระหว่างประเทศที่มีอิทธิพลที่จะกดดัน พรรคประชาธิปัตย์ และการกดดันดังกล่าวอาจจะช่วยนำแนวทางเสรีนิยมกลับสู่ประเทศที่ระบอบเสรี นิยมประชาธิปไตยกำลังถูกทำลาย


อ่านเพิ่มเติมที่ โรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เนื่องจากปัจจุบันได้มีการประกาศ พ.ร.ก.สถานการณ์ฉุกเฉิน ทางthairedshirt ขอความร่วมมือ ใช้ความระวัดระวังในการโพสต์ข้อความที่มีความสุ่มเสียงทุกชนิดครับๆ