วันอาทิตย์ที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2553

ศอฉ. ถอยทหารกลับกรมกอง ไทยคมเชื่อม PTV ก่อน 4 โมงเย็น

11 เม.ย. 53 – เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจรายงาน ว่า ที่กรมทหารราบ 11 เมื่อเวลา 10.30 น. พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก ในฐานะโฆษกศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) แถลงผลการประชุม ศอฉ.ในรอบเช้าที่มีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคงในฐานะผอ.ศอฉ.เป็นประธานในการประชุมว่า ที่ประชุมได้มีการประชุมใน 4 เรื่อง เรื่องแรก คือ ผอ.ศอฉ.ได้ขอให้เจ้าหน้าที่ทหารตำรวจทุกหน่วยที่ปฏิบัติภารกิจเมื่อวันที่ 10 เม.ย.ที่ผ่านมาได้สำรวจตรวจสอบจำนวนผู้บาดเจ็บ ผู้เสียชีวิต และตรวจสอบสถานภาพอาวุธยุทโธปกรณ์ รวมถึงเครื่องมือควบคุมฝูงช
ส่วน กำลังพลให้ดูรายละเอียดของผู้ เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บให้ชัดเจนแน่นอนว่า มีใครเป็นอะไรที่ตรงไหน และใครอยู่ตรงไหน เพื่อดำเนินการแจ้งให้ญาติผู้เกี่ยวข้อได้รับทราบ และดำเนินการดุแลในเรื่องของขวัญ สวัสดิการ รวมถึงมีการฟื้นฟูสวัสดิภาพ และมีการตรวจเยี่ยมโดยผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นของทุกหน่วย ส่วนอาวุธยุทโธปกรณ์ให้ดำเนินการสำรวจในรายละเอียดทั้งที่ถูกทำลาย ถูกยึด และสูญหาย เนื่องจากยุทโธปกรณ์บางส่วนได้ถูกกลุ่มผู้ชุมนุมยึด ทุบทำลาย ทำให้เกิดความเสียหาย ซึ่งเกรงว่า ผู้ที่นำยุทโธปกรณ์ไปแล้วจะสร้างสถานการณ์ความวุ่นวายขึ้น และโยนความผิดให้กับตำรวจจึงต้องเนินการโดยละเอียด และโดยเร็ว
พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า เรื่องที่สองรวบรวมข้อมูลทั้งภาพ เสียง และรายละเอียดที่เป็นเอกสาร เพื่อดำเนินการนำข้อมูลชี้แจงให้สาธารณชนได้รับทราบ ทำความเข้าใจกับประชาชนโดยเร็วที่สุด ซึ่งตัวเลขผู้บาดเจ็บที่ตนได้รับทราบล่าสุดมีเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจบาดเจ็บทั้งสิ้น 210 นาย สาหัส 90 นาย เสียชีวิต 4 นาย เป็นทหารกองประจำการน 3 นาย และนายทหารสัญญาบัตรยศพ.อ.หนึ่งนาย
นอก จากนี้ยังมีระดับผู้บังคับกองพัน ได้รับบาดเจ็บอีกหลายท่าน นอกจากนี้ยังมีการเตรียมการเพื่อรองรับการตรวจสอบจากหน่วยต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง และนำเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ยืนยันว่า ทาง ศอฉ.พร้อมรับการตรวจสอบจากกระบวนการยุติธรรมในทุกสถานการณ์ ทั้งนี้ในที่ประชุมผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นทุกส่วนต่างยืนยันตรงกันว่า ทหาร ตรวจ เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติภารกิจทุกนายปฏิบัติตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชาอย่าง เคร่งครัด ไม่มีการยิงเข้าใส่ประชาชนด้วยอาวุธกระสุนจริงและไม่ตัดสินใจใช้อาวุธทำใน สิ่งที่เกินกว่าเหตุ ไม่ทำความสูญเสียให้สังคมและส่วนรวม
พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า เรื่องที่สาม การดำเนินการตั้งจุดตรวจด่านตรวจสายตรวจเพื่อป้องกันไม่ให้กลุ่มผู้ไม่หวัง ดีนำสิ่งผิดกฎหมายหรืออาวุธร้ายแรงต่าง ๆ มาสร้างสถานการณ์ และเรื่องสุดท้ายคือ เรื่องของความเข้มงวดในมาตรการการรักษาความปลอดภัยหน่วยราชการทุกหน่วย โดยเฉพาะสถานที่ตั้งของหน่วยทหาร และเจ้าหน้าที่ตำรวจทั่วทุกพื้นที่ ทั้งประเทศ ส่วนการดูแลพื้นที่ชุมนุมนั้น เนื่องจากเพิ่งจะมีการปฏิบัติภารกิจขอคืนพื้นที่เมื่อวันที่ 10 เม.ย.ที่ผ่านมา ดังนั้นการรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ใกล้เคียงกับกลุ่มผู้ชุมนุมเป็นหน้าที่ ของตำรวจ
เมื่อ ถามถึงการดำเนินการขอคืนพื้นที่ ของทหารจนทำให้มีผู้เสียชีวิต พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า เรื่องการตัดสินใจเป็นไปตามแผนงานที่ได้กำหนดไว้แล้ว แต่เมื่อค่ำมืด เจ้าหน้าที่ทหารไม่ได้เคลื่อนเข้าหาผู้ชุมนุม กลับขับไล่ในจุดที่เจ้าหน้าที่ทหารอยู่ให้ออกไป ซึ่งช่วงเวลาค่ำมืดถือเป็นอุปสรรคของเจ้าหน้าที่ จึงไม่ได้มีการเคลื่อนที่เข้าหา
 ต่อ ข้อถามกรณีที่ส.ส.เพื่อไทยพากลุ่ม ผู้ชุมนุมไปที่ไทยคม พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า ไมมีรายงานเข้ามา เพราะเจ้าหน้าที่ในส่วนนั้นหยุดการปฏิบัติแต่มีการดูแลรักษาสถานที่ เพราะเป็นพื้นที่ที่มีการประกาศเงื่อนไขและหลักเกณฑ์ใน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ทั้งนี้การดำเนินการกับผู้ชุมนุมจากนี้ไปคงหยุดก่อน ต้องรอฟังแนวทางและนโยบายจากรัฐบาล เพราะศอฉ.ถือเป็นกลไกของรัฐ
ผู้ สื่อข่าวถามว่า ปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ใครเป็นคนตัดสินใจ พ.อ.สรรเสริญ กล่าวต่อว่า การตัดสินใจเป็นไปตามแผนงานที่ได้กำหนดเอาไว้ แต่เมื่อค่ำมืดเจ้าหน้าที่ทหารไม่ได้เคลื่อนที่เข้าหากลุ่มผู้ชุมนุม แต่เหตุปะทะที่เกิดขึ้นเนื่องจากกลุ่มผู้ชุมนุมพยายามที่จะขับไล่ในจุดที่ เจ้าหน้าที่ทหารอยู่ให้ออกไป ซึ่งกลุ่มผู้ชุมนุมบางส่วนได้ใช้อาวุธกระสุนจริง ทั้งระเบิดเอ็ม 79 ระเบิดเอ็ม 67 ระเบิดจากถังแก๊ส ทำร้ายเจ้าหน้าที่จนได้รับความสูญเสีย ฉะนั้นหากหลักปฏิบัติเป็นอย่างที่ได้ระบุว่าเท่ากับว่าส่งเจ้าหน้าที่ไปได้ รับบาดเจ็บและเสียชีวิต
ต่อข้อถามกรณีที่เจ้าหน้าที่ทหาร ถูกกลุ่มคนเสื้อแดงจับตัวไป พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า นายทหารที่ถูกจับไปมาจากกองพันทหารม้าที่ 3 และจากกองพันทหารม้าที่ 27 จำนวน 6 คน ได้รับการปล่อยตัวแล้ว 2 คน คือ จ.ส.อ.เกียงไกร บัวศรี ส.อ.เกล้า อินแพง ผู้ที่ยังไม่ยังไม่ได้รับการปล่อยตัวมี 4 คน คือ จ.ส.อ.สนั่น ภูดี จ.ส.อ.สุข จิตตรีเชาว์ จากกองพันทหารม้าที่ 27 ส.อ.บุญส่ง กุมภา ส.ต.วิทยา ปลายขอก ทั้งนี้ยังไม่ได้มีการต่อรอง ส่วนเจ้าหน้าที่ 2 คนที่กลับมาเรายังไม่สามารถตรวจสอบได้ชัดเจนว่า กลับมาได้อย่างไร
ไทยคมลาดหลุมแก้วยอมเชื่อมสัญญาณออกอากาศพีเพิลชาแนล
ด้านมติชนออนไลน์รายงานเมื่อเวลา 13.55 น. กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) จำนวนกว่า 1,000 คน นำโดย นายชูชีพ หาญสวัสดิ์ ส.ส.ปทุมธานี พรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย พ.ต.ท. .ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ แกนนำนปช. ได้เคลื่อนขบวนมาปิดล้อมสถานีบริการภาคพื้นดินดาวเทียมไทยคม ลาดหลุมแก้ว เพื่อเรียกร้องให้มีการเปิดสัญญาณออกอากาศของสถานีโทรทัศน์พีเพิลแชลแนล ท่ามกลางการตรึงกำลังของเจ้าหน้าที่ตำรวจ300-400นาย
ใน ช่วงที่ตัวแทนเสื้อแดงนำโดยนายชูชีพ ได้เข้าไปเจรจา ทางกลุ่มผู้ชุมนุมที่อยู่รั้วด้านนอกต่างรอผลเจรจาไม่ไหว ได้พังรั้งเข้าไปบริเวณสนามหญ้าหน้าตึกสถานีบริการภาคพื้นดินไทยคม ลาดหลุมแก้ว
อย่าง ไรก็ตามหลังจากการเจรจาสิ้นสุดลง เจ้าหน้าที่ก็ได้ตกลงยินยอมเชื่อมสัญญาณออกอากาศพีเพิลแชลแนลอีกครั้ง โดยเจ้าหน้าที่เทคนิคระบุว่า ได้เชื่อมต่อสัญญาณแล้ว แต่กลุ่มเสื้อแดงยังขอปักหลักเฝ้าดูสถานการณ์ต่อไป เพื่อป้องกันทหารกลับมาตัดสัญญาณ ขณะที่ตำรวจก็ได้ถอนกำลังออกไปแล้ว
โดยแกนนำ นปช. ได้ประกาศว่าภายใน 16.00 น. จะสามารถรับชมได้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เนื่องจากปัจจุบันได้มีการประกาศ พ.ร.ก.สถานการณ์ฉุกเฉิน ทางthairedshirt ขอความร่วมมือ ใช้ความระวัดระวังในการโพสต์ข้อความที่มีความสุ่มเสียงทุกชนิดครับๆ