วันอังคารที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2553

“รำลึก 5 เดือน 10 เมษา” ญาติถามหาผู้รับผิดชอบ

10 ก.ย.53 เวลา 17.00 น. ญาติของผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ขอคืนพื้นที่ถนนราชดำเนินเมื่อวันที่ 10 เม.ย. เดินทางมาที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนิน เพื่อรำลึกถึงการสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รัก มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมกว่า 50 คน

นางสุวิมล ฟุ้งกลิ่นจันทร์ สูญเสียบุตรชายคือ นายเทิดศักดิ์ ฟุ้งกลิ่นจันทร์ ซึ่งถูกยิงเสียชีวิตในตอนค่ำของวันที่ 10 เม.ย.ที่แยกคอกวัว ให้สัมภาษณ์ว่า การมาร่วมกิจกรรมในวันนี้เพื่อรำลึกถึงลูกชาย โดยทุกๆ วันที่ 10 ความรู้สึกสูญเสียยังสะท้อนอยู่ในหัวอกของตนซึ่งเป็นแม่ นางสุวิมลกล่าวว่า อยากให้รัฐบาลรู้ว่าตนต้องการทราบว่าใครเป็นคนยิงลูกชายของตน และมั่นใจว่าทหารเป็นผู้ยิง

น.ส.ธัญกมล คำน้อย ซึ่งสูญเสียน้องชายคือ นายเกรียงไกร คำน้อย ให้สัมภาษณ์ว่า น้องชายของตนถูกยิงเข้าที่ท้องในช่วงกลางวันที่บริเวณสะพานมัฆวานและเสีย ชีวิต การมาร่วมกิจกรรมในวันนี้จึงมาเพื่อตอกย้ำไม่ให้รัฐบาลลืมว่า รัฐบาลเป็นผู้สั่งให้ทหารใช้อาวุธสงครามเข้าสลายการชุมนุม และสั่งให้ทหารยิงประชาชน

นายสำราญ วางาม บิดาของนายสวาท วางาม ให้สัมภาษณ์ว่า ลูกชายของตนถูกยิงที่ศีรษะเสียชีวิตในตอนค่ำของวันที่ 10 เม.ย. ในวันนี้จึงเดินทางมาเพื่อแสดงความเคารพต่อวีรชนที่เสียชีวิตในวันที่ 10 เม.ย.และเพื่อรำลึกถึงลูกชายที่เสียไป นายสำราญกล่าวว่า ต้องการให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กล่าวคำขอโทษต่อผู้เสียชีวิตและบรรดาญาติ

นางสุนันทา ปรีชาเวช สูญเสียน้องชายคือ นายทศชัย เมฆงามฟ้า ซึ่งถูกยิงที่ปอดทะลุหัวใจและเสียชีวิตบริเวณโรงเรียนสตรีวิทยา ให้สัมภาษณ์ว่า ตนต้องการทราบว่ารัฐบาลจะทำอะไรให้กับญาติผู้เสียชีวิตบ้าง เนื่องจากตนได้พยายามติดตามการดำเนินคดี แต่ไม่พบว่ามีความคืบหน้าแต่อย่างใด นางสุนันทากล่าวว่า ยังมีศพที่ยังไม่เผาและเป็นหลักฐานอยู่ แต่จะทำอย่างไรให้รัฐบาลหันมาสนใจ เพราะที่ผ่านมารัฐบาลไม่เคยแสดงความรับผิดชอบหรือกล่าวคำขอโทษต่อการสูญเสีย ชีวิต 91 ศพ จึงอยากถามหาความรับผิดชอบจากรัฐบาล

กิจกรรมเริ่มขึ้นในเวลา 17.30 น. โดยนายสมบัติ บุญงามอนงค์ จากกลุ่มวันอาทิตย์สีแดง กล่าวกับผู้ร่วมกิจกรรมว่า การรำลึกถึงผู้เสียชีวิตในวันที่ 10 เม.ย. เป็นกิจกรรมของผู้ที่มีความทรงจำและผูกพันกับเหตุการณ์ในวันนั้น และเพื่อให้เรื่องราวเหล่านี้ถูกจดจำและบอกเล่าต่อโดยไม่ถูกหลงลืม นายสมบัติจึงขอให้ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์วันที่ 10 เม.ย. ออกมาเล่าเรื่องราวทีละคน

หลังจากกิจกรรมเล่าเรื่องแล้ว ญาติผู้เสียชีวิตและผู้ร่วมกิจกรรมได้นำเทียนสีแดงและดอกกุหลาบแดงไปวางหน้า ภาพถ่ายของผู้เสียชีวิต ในระหว่างนั้นมีการร้องเพลง “นักสู้ธุลีดิน” และกิจกรรมจบลงในเวลาประมาณ 19.00 น.


ที่มา: ประชาไท

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เนื่องจากปัจจุบันได้มีการประกาศ พ.ร.ก.สถานการณ์ฉุกเฉิน ทางthairedshirt ขอความร่วมมือ ใช้ความระวัดระวังในการโพสต์ข้อความที่มีความสุ่มเสียงทุกชนิดครับๆ