วันอังคารที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2553

ถ้าไม่ปล่อยนักโทษการเมือง ก็ไม่ต้องพูดเรืองอื่น

วัฒนะ วรรณ

19 กันยายน 2553 นี้ก็ครบ 4 ปี ของการรัฐประหารแล้ว เกิดอะไรขึ้นในประเทศไทยบ้าง เรามีทหารครองอำานาจผ่านรัฐบาลพลเรือนมือเปื้อนเลือด เราเห็นคนตายเมื่อ 10 เมษายน เราเห็นคนตายเมื่อเดือนพฤษภาคม เราเห็นความป่าเถื่อนของชนชั้นสูงในประเทศนี้ เราเห็นหลายสิ่งหลายอย่างที่ไม่เคยคิดว่าจะได้เห็น เราเห็นภาพแท้ของประเทศไทย เราเห็นความยากจน ความเหลื่อมล้ำ ว่าแท้จริงแล้วเกิดจากสิ่งใดกัน
เรามีนักโทษการเมืองกว่า 400 คนที่จังหวัดปทุมธานี สมุทรปราการ อยุธยา อุบลฯ อุดรฯ ขอนแก่น มุกดาหาร เชียงใหม่ เชียงราย น่าน นครปฐม และกรุงเทพ พวกเจาถูกจับคุมขังและห้ามประกันตัว เพราะคิดต่างจากผู้มีอำนาจ เพราะกล้าลุกขึ้นมาปกป้องศักดิ์ศรีของตนเอง นี่แหละภาพแท้จริงประเทศไทย
เราจะทำอย่างไรกันต่อ เราคงมีทางเลือกอยู่สองทาง หนึ่งยอมจำนนเป็นไพร่ไปตลอดชีวิต จนถึงรุ่นลูกรุ่นหลานอีกหลายร้อยปี กับสอง ลุกขึ้นมาสู้ต่อ เยี่ยงนักต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์ ผมคิดว่าพวกเราเลือกข้อสอง
เราจะสู้กันอย่างไร? เป็นคำถามสำคัญ อย่างแรกต้องเรียกความมั่นใจของเรา ของกลุ่มเรา ของเพื่อนพี่น้องเรากลับมาก่อน หาทางรวมกลุ่มกันให้มั่น ปลุกปลอบ สร้างขวัญกำลังใจให้กันและกันอย่างต่อเนื่อง ออกปฏิบัติการในรูปแบบที่ทำได้ เช่น กิจกรรมวันอาทิตย์สีแดง หรือเข้าร่วมสมัชชา 19 พฤษภาคม เพื่อท้าทายพวกอำมาตย์ทางการเมือง
สองกำหนดเป้าหมายเฉพาะหน้า นั่นคือต้องมีการปล่อยนักโทษการเมืองทุกคนทันที โดยไม่มีเงื่อนไข สิ่งนี้เป็นภารกิจสำคัญของนักสู้ประชาธิปไตย เราต้องพูด ต้องรณรงค์ ต้องกระจายข่าว ของพี่น้องที่อยู่ในคุกให้กว้างขวางมากที่สุด ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ต้องฝึกฝนเพื่อจะนำตนเอง หรือร่วมกันเป็นแกนนอน อย่างที่ คุณสมบัติ พยายามกระทำอยู่ตอนนี้
เหตุผลที่พวกอำมาตย์จับกุมนักต่อสู้ประชาธิปไตย ไม่ใช่เพราะว่าเขาเข้มแข็ง แต่ด้านกลับพวกเขาอ่อนแอเต็มที่แล้ว จึงใช้มาตรการสุดท้ายที่พวกเขามีอยู่ในมือ นั่นคือคุก ศาล ทหาร ตำารวจ เขาไม่อาจจะครองใจคนส่วนใหญ่ได้อีกต่อไป ไม่สามารถทำให้คนส่วนใหญ่เชื่อและยอมอยู่ภายใต้ระบบการปกครองแบบเดิมได้อีก มันจึงเป็นโอกาสทองที่พวกเราชาวไพร่ จะได้ปลดแอกตนเองเสียที
นอกจากนั้นเราต้องสร้างกำลังใจให้คนที่อยู่ในคุก ต้องมั่นไปเยี่ยมในเรือนจำ ต้องมั่นไปเยี่ยมญาติพี่น้องของเขาที่บ้าน ใครมีเงินช่วยเงิน ใครมีสิ่งของช่วยสิ่งของ ใครมีแรงช่วยแรง เพื่อสร้างขวัญกำลังใจ เพราะพวกเขาคือแนวหน้าของนักสู้ประชาธิปไตย เราทอดทิ้งเขาไม่ได้
เรามีความชอบธรรมในการรณรงค์เพื่อให้รัฐบาลอำมาตย์ปล่อยนักโทษการเมือง เพราะพวกเขาไม่มีความผิด ดังคำที่คุณศราวุฒิ ประทุมราช นักสิทธิมนุษยชนได้พูดไว้ว่า “นปช.ทุกคนคือนักโทษการเมือง ความผิดของนักโทษการเมืองคือไม่มีความผิด”
ดังนั้นถ้าไม่มีการปล่อยนักโทษการเมืองทั้งหมด ก็ไม่ต้องมาพูดอะไรกันอีก จะตั้งคณะกรรมการมากี่ร้อยกี่พันชุดมันก็ไม่ทำให้สังคมเป็นปกติขึ้นมาได้
แต่การจะให้อำมาตย์ปล่อยนักโทษการเมืองนั้นคงไม่ง่าย ต้องกดดันด้วยพลังมวลชนอย่างต่อเนื่อง ต้องสอดประสาน แล้วตั้งเป็นนโยบายเฉพาะหน้าร่วมกัน ทุกคน ทุกกลุ่ม ทุกองค์กร ว่าเราจะต่อสู้เพื่อปล่อยนักโทษการเมืองให้จงได้

ที่มา: นสพ.เลี้ยวซ้าย ฉบับที่ 63 กันยายน 2553

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เนื่องจากปัจจุบันได้มีการประกาศ พ.ร.ก.สถานการณ์ฉุกเฉิน ทางthairedshirt ขอความร่วมมือ ใช้ความระวัดระวังในการโพสต์ข้อความที่มีความสุ่มเสียงทุกชนิดครับๆ